ปูตินแถลงต่อรัฐสภา ลุยรุกรานยูเครนต่อ-ระงับสนธิสัญญาจำกัดอาวุธนิวเคลียร์

ผู้นำรัสเซียพูดว่า กระทำการทางด้านทหารที่เกิดขึ้นมาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565

นายลาดิมีร์ ปูติเตียนน ผู้นำรัสเซีย ทันโลกข่าวต่างประเทศ แถลงต่อสภานิติบัญญัติรัสเซียเมื่อวันอังคาร (21 เดือนกุมภาพันธ์ว่าจะเดินหน้าทำศึกสงครามในยูเครนถัดไป รวมทั้งป้ายความผิดประเทศในกรุ๊ปองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือที่นำโดยสหรัฐ ว่าเป็นผู้ก่อการทำศึกนี้ขึ้นมา

เป็นการโต้กลับยูเครนจู่โจมแว่นแคว้นดอนบาส ทางทิศตะวันออกของยูเครน ที่รัสเซียกล่าวถึงว่าราษฎรอยากได้อยู่กับรัสเซียมากยิ่งกว่า แล้วก็เป็นการสกัดกั้นแนวทางของยูเครนที่จะจู่โจมแว่นแคว้นไครภรรยาต่อไป

ผมขอกล่าวซ้ำอีกรอบ พวกเขาเริ่มการรบนี้ขึ้นมา พวกเราเลยจำต้องใช้ความรุนแรงเพื่อหยุดมัน” นายปูติเตียนน กล่าว

หัวหน้ารัสเซียวัย 70 ปี รายนี้ กล่าวอีกว่า ชาติตะวันตกไม่มีทางเอาชนะรัสเซียได้

เศรษฐกิจตะวันตกกำลังแพ้ภัยตัวเอง
นายปูติเตียนน พูดว่าภายหลังดำเนินการดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว บรรดาชาติตะวันตกก็ใช้มาตรการคว่ำบาตรทั้งยังด้านทหาร ทางข้อมูล รวมทั้งด้านเศรษฐกิจต่อรัสเซีย แต่ว่าในช่วงเวลานี้มาตรการคว่ำบาตรกลุ่มนี้กำลังไม่ดีต่อชาติพวกนั้นแทน

ทันโลกข่าวต่างประเทศ

พวกเขาพบกับราคาผลิตภัณฑ์ที่แพงขึ้นในประเทศตนเอง โรงงานปิดตัว ภาคพลังงานล่มสลาย แล้วพวกเขาก็ไปบอกสามัญชนของตนว่ารัสเซียเป็นสาเหตุ

ผู้นำรัสเซีย กล่าวถัดไปว่า ถึงแม้จีดีพีของรัสเซียจะถูกปรับลดน้อยลงมา แต่ว่าในที่สุดเศรษฐกิจก็มิได้ล่มสลาย สลับกันรัสเซียมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ แล้วก็หันไปค้าขายกับประเทศอื่นๆแทน

หยุดอนุสัญญาปรมาณูสหรัฐ
อีกเรื่องนาปูตำหนินกล่าต่อสมาชิกรัฐสภารัสเซียเป็นกลยุทธ์หยุดการมีส่วนร่วมกับข้อสัญญาฉบับหนึ่งที่ทำกับสหรัฐ สำหรับในการจำกัดแล้วก็ลดปริมาณอาวุธปรมาณู ที่เรียกว่า สัญญานิวสตาร์ต โดยกล่าวถึงว่าสหรัฐรวมทั้งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือมิได้ร่วมมือก่อน

ด้วยประการฉะนี้ ผมฝืนใจประกาศในวันนี้ว่ารัสเซียกำลังยับยั้งการมีส่วนร่วมกับอนุสัญญาเชิงที่มีความสำคัญในการรบที่ว่าด้วยอาวุธที่ใช้สำหรับการจู่โจมฉบับนี้” นายปูติเตียนน กล่าว

นายปูว่ากล่าวน กล่าวอีกว่า รัสเซียจะเริ่มทดลองอาวุธปรมาณูครั้งใหม่โดยทันทีหากสหรัฐทำก่อน

หนุ่มได้กลิ่นเหม็นโชยจากหัว ไปตรวจที่โรงพยาบาล ผงะเจอ “ฟันหน้า” ปักอยู่กลางหัว

เรื่องนี้ถูกเขียนใน ทันโลกข่าวต่างประเทศ และติดป้ายกำกับ คั่นหน้า ลิงก์ถาวร