อดีตกาลประธานาธิบดีทรัมป์ วัย 76 ปี ปรากฎตัวต่อศาลในนครนิวยอร์ก ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มแล้วก็เนคไทสีแดง
อดีตกาลผู้นำสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ ทันโลกข่าวต่างประเทศ ตัวเก็งผู้แทนพรรครีพับลิกันสำหรับในการลงต่อสู้ตำแหน่งผู้นำในปี 2024 ไม่รับไม่ถูกในคดีอาญา 34 กระทง ที่เกี่ยวโยงกับหัวข้อการปลอมเอกสาร ข้างหลังการไต่ถามสอบปากคำหลักสำคัญมอบเงินค่าปิดปากดาราภาพยนตร์คนแก่ให้ปกปิดเรื่องสโมสรลับ
อดีตกาลหัวหน้าสหรัฐอเมริกา ซึ่งกล่าวโดยตลอดว่า การตั้งข้อกล่าวหานี้มีแรงบันดาลใจทางด้านการเมือง ยกหมัดขึ้นฟ้าอันเป็นเครื่องหมายให้กับผู้รายงานข่าว ระหว่างที่เขามุ่งหน้าออกมาจากตึกทรัมป์ทาวเวอร์ ในวันอังคาร
ในขณะที่ขบวนรถเคลื่อนไปยังศาลในนครนิวยอร์ก สมัยก่อนประธานาธิบดีทรัมป์ ได้โพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของเขาว่า “มุ่งหน้าเพื่อเข้าสู่ตอนล่างของเกาะแมนฮัตตัน ที่ทำงานศาล มองเกิดเรื่องอัศจรรย์จริงๆพวกเขากำลังจะจับผม เชื่อว่าเลยว่า นี่เป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในอเมริกา”
ท่ามกลางบรรยากาศรอบๆศาลนิวยอร์กในวันอังคารที่อากาศเย็นสบายและก็มีแสงตะวันแรงในฤดูใบไม้ผลิ มีการปักหลักประชุมของอีกทั้งกรุ๊ปผู้ผลักดันและสนับสนุนทรัมป์รวมทั้งคนคัดค้าน ซึ่งตำรวจได้ตรึงกำลังรวมทั้งนำแผงกันมาขวางระหว่างผู้รวมกันทั้งคู่ฝั่งเอาไว้ เพื่อรักษาความสงบ รวมทั้งมีรายงานการเผชิญหน้ากันเล็กน้อยระหว่างทั้งคู่ฝั่ง
สมัยก่อนประธานาธิบดีทรัมป์ วัย 76 ปี ปรากฎตัวต่อศาลในนครนิวยอร์ก ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มแล้วก็เนคไทสีแดง เพื่อพิมพ์ลายนิ้วมือ แม้กระนั้นไม่มีการถ่ายภาพประกอบแฟ้มคดี หรือ mugshot อ้างอิงจากรายงานของผู้รายงานข่าวเดอะนิวยอร์กไทม์ส แล้วก็เข้าฟังข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ โดยเขาไม่รับไม่ถูกในคดีพวกนั้นจากที่หลายข้างคาดเดา
ด้านทนายของทรัมป์ขอให้ศาลมีคำบัญชาห้ามช่างถายภาพเข้าไปในห้องพิจารณาคดี เพราะว่าจะยิ่งทำให้ “บรรยากาศที่แทบเหมือนการแสดงของคณะนักแสดงสัตว์” จำต้องเสื่อมโทรมลงอีก
ประธานาธิบดีทรัมป์ เป็นผู้นำคนแรกของอเมริกา ทั้งๆที่อยู่ในตำแหน่งหรือพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ที่ถูกฟ้องร้องในคดีอาญา ต่อเนื่องจากข้อกล่าวหาว่า เขามีส่วนร่วมสำหรับเพื่อการชำระเงินค่าปิดปาก 130,000 ดอลลาร์ให้แก่อดีตกาลนักแสดงคนแก่ สตอร์มี แดเนียลส์ เพื่อไม่ให้เอ่ยถึงความเกี่ยวเนื่องกับทรัมป์
รู้จักนักแสดงโป๊ สตอร์มี แดเนียลส์ ผู้กระเทือนวิถีทางกลับสู่อำนาจของทรัมป์
ดังนี้ ภายใต้ข้อบังคับเมืองนิวยอร์กเมื่อรวมคดีทั้งหมดทั้งปวงที่อดีตกาลหัวหน้าสหรัฐอเมริกา รายนี้ถูกตั้งข้อกล่าวหา ต้องโทษจำตารางสูงสุดถึง 136 ปี แต่ว่าในทางปฏิบัติ ช่องทางที่จะต้องโทษนานขนาดนั้น หากแม้ถูกวินิจฉัยว่ามีความผิด มีอยู่น้อยมาก โดยในคดีปลอมเอกสารโดยชอบด้วยกฎหมายนิวยอร์ก จะมีโทษติดตะรางไม่เกิน 1 ปีก็จริง แม้กระนั้นโทษดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นจะมากขึ้นสูงสุดถึง 4 ปีถ้าเป็นการกระทำผิดเพื่อหวังปกปิดอาชญากรรมอีกคดีหนึ่ง
ด้านทำเนียบขาวมิได้เอ่ยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่นิวยอร์กมากเท่าไรนักในวันอังคาร เวลาที่ผู้ชำนาญทางด้านกฎหมายคิดว่า การไต่ตรองที่คดีจึงควรใช้เวลามากยิ่งกว่า 1 ปีเป็นขั้นต่ำ และก็การตั้งข้อกล่าวหาหรือวินิจฉัยว่ามีความผิดก็ไม่อาจจะกีดขวางสมัยก่อนประธานาธิบดีทรัมป์ สำหรับในการลงชิงเก้าอี้หัวหน้าสหรัฐอเมริกา ได้
ข้างหลังฟังข้อกล่าวหาแล้ว อดีตกาลประธานาธิบดีทรัมป์ มุ่งหน้ากลับเมืองฟลอริดาในทันที และก็เตรียมพร้อมแถลงข่าวที่บ้านพักตากอากาศ มาร์-อะ–ลาโก ในเวลา 20.15 น.
จีนา วิตเชอร์ คนอเมริกันวัย 55 ปีจากเมืองแมริแลนด์ หนึ่งในผู้ส่งเสริมทรัมป์ที่มารวมกันหน้าศาลนิวยอร์ก กล่าวกับรอยเตอร์ว่า “พวกเรามีความคิดว่าเป็นการตั้งข้อกล่าวหาที่น่าสยดสยองมากมาย” รวมทั้งยัดเยียดข้อหาว่า อัยการตำบลนิวยอร์ก อัลวิน กางเกลื่อนกลาดก์ หัวหน้าการพิสูจน์ในคดีนี้มีแรงบันดาลใจทางด้านการเมืองสำหรับในการตั้งข้อกล่าวหา
ในขณะที่ คิม บริตต์ วัย 69 ปี หนึ่งในผู้ร่วมคัดค้านทรัมป์ กล่าวกับรอยเตอร์ว่า “ถ้าหากพบว่ามีคนไหนกันแน่อยู่เหนือข้อบังคับ พวกเราจะปักหลักไม่ไปไหนทั้งหมด”
สำหรับเพื่อการตรวจปัจจุบันจาก Reuters/Ipsos ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ บอกว่า อดีตกาลประธานาธิบดีทรัมป์ มีคะแนนทิ้งห่างทิ้งห่างจากคู่ปรับที่จำต้องแย่งชิงการเป็นผู้แทนพรรครีพับลิกันสู้ศึกลงคะแนนผู้นำสหรัฐอเมริกา ปีต่อไป
โดยสำหรับการตรวจสอบปัจจุบันที่ทำภายหลังจากมีการตั้งข้อกล่าวหาสมัยก่อนประธานาธิบดีทรัมป์ 48% ของคนประเทศอเมริกาที่ส่งเสริมพรรครีพับลิกัน บอกว่า อยากที่จะให้ทรัมป์เป็นผู้แทนพรรคชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มากขึ้นจากระดับ 44% เมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนผู้ว่าการเมืองฟลอริดา รอน เดอซานตำหนิส คะแนนตกจากระดับ 30% ไปอยู่ที่ 19% รวมทั้งผู้คนสำหรับเพื่อการตรวจสอบราว 2 ใน 3 มั่นใจว่าทรัมป์ชำระเงินปิดปากสมัยก่อนนักแสดงคนแก่จริง แต่ว่าครึ่งเดียวสำหรับการตรวจสอบคิดว่าการตั้งข้อกล่าวหามีมูลมูลเหตุจูงใจทางด้านการเมือง